วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประวัติวันเเม่

  ประวัติและความสำคัญ วันแม่แห่งชาติ



ประวัติและความสำคัญ วันแม่แห่งชาติ

ทุกคนย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่า วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปีคือวันแม่แห่งชาติ เนื่องจากวันดังกล่าวคือวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั่นเอง โดยเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2519 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกทุกคนได้รำลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของแม่

ความหมายของคำว่า “แม่”

ตามพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายความว่า หญิงในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูก, คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน ซึ่งเป็นคำเรียกที่มีความหมายยิ่งใหญ่อยู่ตัว โดยเฉพาะกับผู้เป็นลูก ที่ได้แม่คอยดูแลมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนกระทั่งเติบใหญ่
น้อยคนนักที่จะทราบว่า แท้จริงแล้ว วันแม่แห่งชาติของประเทศไทยแต่เดิม อยู่ในช่วงวันสงกรานต์ คือวันที่ 15 เมษายนของทุกๆปี โดยเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้ประกาศรับรอง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงาน วันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2493 เป็นครั้งแรก ประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะประชาชนให้การสนับสนุน จนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไป (อ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/วันแม่แห่งชาติ_(ประเทศไทย))
ต่อมา รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศให้วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติแทนวันที่ 15 เมษายนของทุกปี ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้วันดังกล่าวมีความสำคัญและความหมายมากขึ้น โดยเริ่มในปี พ.ศ. 2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

กิจกรรมในวันแม่แห่งชาติ

ที่ทำเป็นประจำทุกปีในสถานศึกษา คือ การประกวดเรียงความ คำขวัญ เขียนการ์ดวันแม่และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการประดิษฐ์ดอกมะลิ เพื่อนำไปมอบให้แก่แม่
เพลงชาติไทย

“ดอกมะลิ” เป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการสำหรับวันแม่

“ดอกมะลิ” เป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการสำหรับวันแม่ เพราะดอกไม้ชนิดนี้มีสีขาวบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนความรัก ของแม่ที่มีต่อลูกนั้นล้วนบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งแอบแฝงใดๆ อีกทั้งดอกมะลิก็ส่งกลิ่นหอมได้ยาวนานและสามารถส่งกลิ่นไปได้ไกล เปรียบได้กับความรักความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูก ไม่ว่าจะอยู่ไกลสักแค่ไหน ความรักของแม่ก็ไปถึงและไม่มีวันเสื่อมคลายนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีเพลง “ค่าน้ำนม” เเต่งขึ้นโดย อาจารย์ สมยศ ทัศนพันธ์ ถือเป็นเพลงอย่างเป็นทางการในวันแม่แห่งชาติอีกด้วย ด้วยเนื้อเพลงที่สื่อถึงความรักของแม่และระลึกถึงบุญคุณค่าน้ำนมที่ทำให้เราได้เติบใหญ่ เพลงดังกล่าวถือเป็นเพลงอมตะ ที่ไม่ว่าฟังเมื่อไหร่ กี่ยุคกี่สมัยก็ซึ้งกินใจได้อยู่เสมอ
อนึ่ง ในปัจจุบัน นอกจากการจัดงานเพื่อระลึกถึงบุญคุณของแม่แล้ว ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะจัดขึ้นที่ศูนย์ราชการของแต่ละจังหวัด โดยมีการถ่ายทอดสดและจุดเทียนชัยถวายพระพรร่วมกันทั่วประเทศ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถร่วมกันอีกด้วย
อ้างอิง  http://www.xn--k3cikmwc5gwb5fxbya.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น